ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาหลังจากการระบาดของโควิด-19 คณะวิศวกรรมศาสตร์ของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ได้รับมอบหมายจากอธิการบดีให้พัฒนาเทคโนโลยีที่ทันสมัยเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการเกษตรอย่างหลากหลาย
การพัฒนาที่เร่งด่วนมีผลสร้างหุ่นยนต์ที่สามารถทำงานได้แทบทุกด้านโดยไม่จำเป็นต้องมีคนขับอยู่บนพื้นที่ ซึ่งประกอบไปด้วยหุ่นยนต์ในขนาดต่างๆ ที่สามารถใช้งานได้หลายวิธี เช่น การปลูกพืช การตัดหญ้า การฉีดพ่นสารเคมี และภารกิจอื่นๆ ที่สำคัญในการดูแลพืชในแปลงเกษตรแต่ละประเภท
ผศ.ปัญญา เหล่าอนันต์ธนา ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายกิจการนิสิต รักษาการหัวหน้าศูนย์นวัตกรรมเทคโนโลยีองค์รวมและปัญญาประดิษฐ์ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ (มก.) หุ่นยนต์ทั้ง 3 ขนาดนี้ได้รับการพัฒนาโดยใช้วัสดุและอุปกรณ์ภายในประเทศเพื่อลดต้นทุนและเพิ่มคุณภาพ หุ่นยนต์ตัวแรกใช้งบประมาณไม่ถึง 5 แสนบาท ตัวที่สองใช้งบประมาณไม่เกิน 3 แสนบาท และตัวที่ 3 ไม่เกิน 1 แสนบาท แม้ราคาจะถูกกว่าหุ่นยนต์จากต่างประเทศแต่มีคุณภาพและประสิทธิภาพในการทำงานที่เทียบเท่าได้ โดยได้ทดสอบและใช้งานจริงในแปลงเกษตรซึ่งพบว่าสามารถทำงานได้ตามความต้องการของเกษตรกรทั้งในการดูแลแปลงเกษตรและการดูแลพืชต่างๆ
ไม่จำเป็นต้องมีการควบคุมโดยตรง และสามารถทำงานได้รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพ
นอกจากนี้ ระบบควบคุมของหุ่นยนต์ทั้ง 3 ขนาดนี้มีความยืดหยุ่นและสามารถควบคุมการทำงานได้จากระยะไกลถึง 300 เมตร ทำให้เกษตรกรสามารถควบคุมการทำงานได้โดยไม่ต้องอยู่ในพื้นที่ อีกทั้ง วัสดุและอุปกรณ์ทั้งหมดที่ใช้ในการพัฒนาหุ่นยนต์ได้เป็นสินค้าภายในประเทศ ซึ่งไม่ต้องการการนำเข้าจากต่างประเทศ เช่น การใช้รีโมตจากรถยนต์บังคับเด็กเล่นเป็นต้น
ในแง่ของการค้างานนวัตกรรม หุ่นยนต์ที่พัฒนาขึ้นนี้ไม่เพียงแต่มีประสิทธิภาพและคุ้มค่าทางด้านความต้องการของเกษตรกร แต่ยังเป็นสิ่งที่มีศักยภาพในการทำให้เกษตรกรไทยเป็นผู้นำในการใช้เทคโนโลยีในการเกษตรอย่างเชี่ยวชาญ ในงานเกษตรแฟร์ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 3–11 กุมภาพันธ์ ที่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ บางเขน ท่านสามารถมาพบหรือศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับหุ่นยนต์นี้ได้ที่นั้น
การพัฒนาหุ่นยนต์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการเกษตรไม่เพียงเป็นการขับเคลื่อนนวัตกรรมใหม่ในประเทศ แต่ยังเป็นการสร้างโอกาสให้กับเกษตรกรที่จะใช้เทคโนโลยีในการพัฒนาธุรกิจและเพิ่มผลผลิตอย่างยั่งยืนในอนาคต นอกจากนี้ การใช้เทคโนโลยีในการเกษตรยังช่วยลดการใช้สารเคมีและการใช้น้ำในการเพาะปลูก ซึ่งเป็นการสนับสนุนในการเกิดเศรษฐกิจที่ยั่งยืนและมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมในระยะยาว ดังนั้น การพัฒนาเทคโนโลยีหุ่นยนต์ในเกษตรจึงเป็นส่วนสำคัญที่เติบโตของประเทศในยุคดิจิทัล
แหล่งที่มา : https://www.thairath.co.th/news/local/2621766